วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คุตบะห์วัศุกร์


ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน

โดย    .อาลี   กองเป็ง

 اَلْحَمْدُللهِ عَظِيْمِ الْجُوْدِ  وَاسِعِ الرَّحْمَةِ     اَلَّذِيْ أَتْحَفَ الصَّائِمِيْنَ بِأَنْوَاعِ الْبِرِّوَأَسْبَغَ عَلَيْهِمْ النِّعْمَةَ , وَصَبَّ عَلَى مَنْ أَفْطَرَفِيْ رَمَضَانَ الْعَذَابَ وَالنِّقْمَةَ ، وَأَشْهَدُ اَنْ لاَاِلهَ إِلاَّ اللهُ أَعْطَى لِكًلِّ طاَلِبٍ فِيْ هذَاالشَّهْرِمَطْلَبَهُ  , وَأَشْهَدُ أَنَّ سَيِّدَنَا مُحَمَّدًا رَسُوْلُ اللهِ أَوْصَى الْخَلْقَ بِقِيَامِ رَمَضَانَ وَرَغَّبَهُ  , اَللّهُمَّ صَلِّ وَسَلِّمْ عَلَى سَيِّدِنَامُحَمَّدٍ وَعَلَى آلِهِ وَصَحْبِهِ وَالتَّابِعِيْنَ إِلَى يَوْمِ الدِّيْنِ .
أَمَّا بَعْدُ فَيَاعِبَادَ اللهِ : أُوْصِيْكُمْ وَنَفْسِيْ أَوّلاًبِتَقْوَى اللهِ تَعَالَى وَطَاعَتِهِ . فَقَدْ قَالَ اللهُ تَعَالَى [ شَهْرُرَمَضَانَ الَّذِيْ أُنْزِلَ فِيْهِ الْقُرْآنُ هُدًى لِلنَّاسِ وَبَيِّنَاتٍ مِنَ الْهُدَى وَالْفُرْقَان]
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธา
            ความประเสริฐของเดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งรัศมี เดือนแห่งการขออภัย เดือนแห่งการภักดีต่ออัลเลาะห์เดือนซึ่งที่บรรดามาลาอิกะห์แยกย้ายกันบอกข่าวดีแก่บ่าวของผู้ทรงเมตตา คือผู้ที่ถือศีลอดโดยเคร่งครัด และขะมักเขม้นสู่บ้านของอัลเลาะห์สภาพที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์
            พี่น้องร่วมศรัทธาครับ     ส่วนหนึ่งที่เป็นจุดมุ่งสำคัญของการถือศีลอด คืออบรมบ่มนิสัยตนเอง  รักษาตัวรักษาใจให้สะอาดจากสิ่งที่น่ารังเกียจตามหลักการอิสลาม  มิใช่เพียงแค่อดข้าว อดน้ำ  เท่านั้น   ดังที่ท่านนบี มู่ฮำมัด (ซ.ล.) ทรงกล่าวว่า
"  لَيْسَ الصَّيَامُ مِنَ الطَّعَامِ وَالشَّرَابِ إِنَّمَا الصِّيَامُ مِنَ اللَّغْوِوَالرَّفَتِ  "
ความว่า   มิใช่การถือศีลอดเพียงแต่การอดอาหารและน้ำ แท้จริงการถือศีลอดคือ การอดกลั้นจากวาจาที่ไร้สาระและจาบจ้วงหรือหยาบคาย

และบันทึกโดยท่านบุคอรีย์ ที่ว่า
" مَنْ لَمْ يَدَعْ قَوْلَ الزُّوْرِوَالْعَمَلِ بِهِ فَلَيْسَ للهِ حَاجَةٌ فِيْ أَنْ يَدَعَ طَعَامَهُ وَشَرَابَهَ"
ความว่า ผู้ใดมิได้ละทิ้งคำพูดที่มุสาและเกี่ยวข้องกับมัน ไม่มีประโยชน์อันใดเลย ณ.อัลเลาะห์ในการที่เขางดอาหารและเครื่องดื่ม
            มุสลิมต้องแสดงออกถึงความประเสริฐเมื่อเข้าสู่เดือนรอมฎอนที่เป็นเดือนแห่งความประเสริฐ   ท่านบัยฮากีย์ ได้บันทึกใว้ว่า  ท่านนบีมู่ฮำมัด (ซ.ล.) กล่าวว่า
"  أُعْطِيَتْ أُمَّتِيْ فِيْ شَهْرِرَمَضَانَ خَمْسًا لَمْ يُعْطَهُنَّ نَبِيٌّ قَبْلِيْ  
ประชาชาติของฉันได้ถูกมอบในเดือนรอมฎอนห้า ประการซึ่งไม่มีนบีท่านใดก่อนฉันได้รับเลย
      أَمَّاالأَوَّلُ :  فَإِنَّهُ إِذَا كَانَ أَوَّلُ لَيْلَةٍ مِنْ شَهْرِرَمَضَانَ نَظَرَاللهُ تَعَالَى إِلَيْهِمْ وَمَنْ نَظَرَاللهُ إِلَيْهِمْ لَمْ يُعَذِّبْهُ أَبَدًا
ประการที่ 1 เมื่อได้เข้าสู่คืนแรกของเดือนรอมฎอนอัลเลาะห์ทรงมองยังบ่าวของพระองค์ และผู้ใดที่พระองค์ทรงมองยังเขาเขาจะไม่ถูกอาซาบ (การลงโทษ) ตลอดไป
      وَأَمَّاالثَّانِيَةُ : فَإِنّ َخُلُوْفَ أَفْوَاهِهِمْ حِيْنَ يُمْسُوْنَ اَطْيَبُ عِنْدَاللهِ مِنْ رِيْحِ الْمِسْكِ
ประการที่ 2 กลิ่นปากของผู้ถือศีลอดในยามเย็น เหลือที่จะมีกลิ่นหอม ณ.ที่อัลเลาะห์ ยิ่งกว่ากลิ่นหอมของชมดเชียงเสียอีก
وَأَمَّاالثَّالِثَةُ : فَإِنَّ الْمَلاَئِكَةَ تَسْتَغْفِرُلَكُمْ كُلَّ يَوْمٍ وَلَيْلَةٍ
ประการที่ 3 เหล่าบรรดาม่าลาอีกะห์จะขออิสติฆฟาร (อภัยให้) แก่เขาในทุกๆวันและคืน
وَأَمَّاالرَّابِعَةُ : فَإِنَّ اللهَ عَزَّوجَلَّ يَأمُرُجَنَّتَهُ فَيَقُوْلُ لَهَااسْتَعِدِّىْ وَتَزَيَّنِيْ لِعِبَادِيْ    أَوْشَكَ أَنْ يَسْتَرِيْحُوْا مِنْ تَعَبِ الدُّنْيَاإِلَى دَارِيْ وَكَرَامَتِيْ
ประการที่ 4  อัลเลาะห์ทรงมีดำรัสแก่สวรรค์ โดยพระองค์ทรงกล่าวแก่สวรรค์ว่า  เจ้าจงเตรียมตัวและประดับประดาให้สวยงามเพื่อต้อนรับบ่าวของเราใกล้แล้วที่พวกเขาจะได้รับการพักผ่อนจากความเหน็ดเหนื่อยของดุนยาสู่บ้านของเราและการให้เกียรติของเรา
         وَأَمَّا الْخَامِسَةُ فَإِنُّهُ إِذَاكَانَ آخِرُ لَيْلَةٍ غَفَرَ اللهُ لَهُمْ جَمِيْعًا
ประการที่ 5  เมื่อเข้าสู่ท้ายของกลางคืนอัลเลาะห์ทรงอภัยโทษแก่พวกเขาทั้งหมด
          قَاَلَ رَجُلٌ مِنَ الْقَوْمِ  أَهِيَ لَيْلَةُ الْقَدْرِ ؟  فَقَاَلَ صَلىَّ اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ   : لاَ  
            أَلَمْ تَرَ إِلىَ الْعَمَّالِ يَعْمَلُوْنَ فَإِذَا فَرَغُوْا مِنْ أَعْمَالِهِمْ وُفُّوْا أُجُوْرَهُمْ .
  มีชายผู้หนึ่งถามขึ้นว่า มันเป็นคืนกอดัร (คืนอันทรงเกียรติ)ใช่หรือไม่โอ้ท่านร่อซูลุ้ลเลาะห์ ?  ท่านร่อซู้ลจึงตอบว่า ไม่หรอกท่านไม่แลเห็นหรอกหรือ ยังคนงานที่เขาปฏิบัติงานของพวกเขา เมื่อพวกเขาเสร็จจากการทำงานพวกเขาก็จะได้รับค่าจ้างตอบแทนอย่างสมบูรณ์
            ท่านพี่น้องร่วมศรัทธา  อย่าให้ความประเสริฐแห่งเดือนรอมฎอนหลุดลอยจากเราโดยไม่สนองต่อพระบัญญัติอัลเลาะห์โดยการละเลยต่อการถือศีลอดซึ่งเป็นความน่าสพึงกลัวและน่าสมเพสสำหรับผู้ที่ละเลยต่อหน้าที่ของรอมฎอนซึ่งมีบันทึกบทหนึ่งโดยท่าน ติรมีญซีย์ ว่า                
قَالَ رَسُوْلُ اللهِ صَلىَّ اللهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ    : مَنْ أَفْطَرَ يَوْمًا مِنْ رَمَضَانَ مِنْ غَيْرِ رُخْصَةٍ وَلاَ مَرَضٍ لَمْ يَقْضِهِ صَوْمُ الدَّهْرِ كُلِّهِ                          

ความว่า   ผู้ใดที่ไม่ถือศีลอดเพียง 1 วัน ของรอมฎอนทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ในข่ายผู้ได้รับการผ่อนผันและไม่ได้ป่วย การถือศีลอดตลอดทั้งชาติของเขาก็ไม่สามารถชดใช้ได้
           
              ท่านพี่น้องครับ มุมินกินเพื่ออยู่  มู่นาฟิก อยู่เพื่อกิน    ดังคำพูดท่านนบีมู่ฮำมัด(ซ.ล.) ที่ได้ทรงกล่าวว่า
" اَلْمُؤْمِنُ يَأْكُلُ بِمِعيٍ وَاحِدٍ وَالْمُنَافِقُ  يَأْكُلُ بِسَبْعَةِ أَمْعَاءٍ .                 
ความว่า  มุมินจะกินเพียง 1 ลำไส้ แต่มู่นาฟิกจะกินถึง 7 ลำไส้
        จงต่อสู้และทำสงครามกับอารมณ์ นัฟซู ด้วยการถือศีลอด อ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน ซิกิร ( รำลึกถึงอัลเลาะห์ ) ด้วยลิ้น ยำเกรงอัลเลาะห์ด้วยหัวใจ ไตร่ตรองด้วยปัญญา สุขุมด้วยอวัยวะ นั่งด้วยการนอบน้อม และพร้อมด้วยการยอมจำนนต่ออัลเลาะห์

أَقُوْلُ قَوْلِىْ هذَا وَاسْتَغْفِرُاللهَ الْعَظِيْمَ لِىْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ 
فَاسْتَغْفِرُوْهُ إِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ