ส่วนหนึ่งจากระเบียบอันเป็นมารยาทที่ดี ของมุสลิมต่อชนต่างศาสนิก
โดย อ. อาลี กองเป็ง
اَلْحَمْدُ للهِ الَّذِيْ لَيْسَ بِعَظِيْمٍ عِنْدَهُ اِلاَّمَنِ امْتَثَلَ نَوَاهِيَهُ
وَاْلاَوَامِرَ . وَاَشْهَدُاَنْ لاَاِلَهَ اِلاَّالله وَحْدَهُ لاَشَرِيْكَ لَهُ
يَنْظُرُاِلَى قُلُوْبِ اْلأَشْخَاصِ لاَاِلَى الظَّوَاهِرِ . وَاَشْهَدُاَنْ سَيِّدَنَامُحَمَّدًاعَبْدُهُ
وَرَسُوْلُهُ سَيِّدُ اْلأَوَائِلِ وَاْلأَوَاخِرِ . اَللَّهُمَّ صَلِّ وَسَلِّمْ عَلَى مُحَمَّدٍوَعَلَى
آلِهِ وَاَصْحَابِهِ وَالتَّابِعِيْنَ لَهُمْ بِاِحْسَانٍ اِلَى يَوْمِ الدِّيْنِ
. اَمَّابَعْدُ فَيَاعِبَادَاللهِ . اُوْصِيْكُمْ وَنَفْسِيْ اَوَّلاً بِتَقْوَى
اللهِ تَعَالَى وَطَاعَتِهِ . فَقَدْقَالَ
الله ُتَعَالَى فِي اْلقُرْآنِ الْكَرِيْمِ :
اِنَّاخَلَقْنَاكُمْ مِنْ
ذَكَرٍوَاُنْثَى وَجَعَلْنَاكُمْ شُعُوْبًاوَقَبَائِلَ لِتَعَارَفُوْااِنَّ
اَكْرَمَكُمْ عِنْدَاللهِ اَتْقَاكُمْ اِنَّ الله َعَلِيْمٌ خَبِيْرٌ
มุสลิม คือผู้มอบความสันติแก่พี่น้องมุสลิมด้วยกันโดยเฉพาะ
และให้สร้างความสุขสันติแก่
บ่าวของอัลลอฮ์
โดยไม่แยกระหว่างมนุษย์และสัตว์ และไม่จำกัดสิทธิความเชื่อทางศาสนา
ให้มุสลิมยึดมั่นในหลักการ โดยยึดถือทางศาสนาอย่างเคร่งครัด
และไม่ละเมิดต่อศาสนาอื่น จนก่อให้เกิดการระส่ำระสาย
และขาดความช่วยเหลือเกื้อกูลทางด้านสังคม
อัลลอฮ์ตรัสว่า
{لَكُمْ دِينُكُمْ وَلِيَ
دِينِ} الكافرون :6
ความว่า สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่าน
และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน
และอัลลอฮ์ตรัสว่า
{وَلاَتَسُبُّواالَّذِيْنَ
يَدْعُوْنَ مِنْ دُوْنِ اللهِ فَيَسُبُّوااللهَ عَدْوًابِغَيْرَعِلْمٍ ....} .....الآية الانعام 108 ความว่า และพวกเจ้าจงอย่าด่าว่า
บรรดาที่พวกเขาวิงวอนขออื่นจากอัลลอฮ์ แล้วพวกเขาก็จะด่าว่าอัลลอฮ์เป็นการละเมิดโดยปราศจากความรู้
ในนัยยะของสองอายะห์นี้
จึงเป็นบทนำให้มนุษย์ที่เป็นบ่าวของอัลลอฮ์ได้แสดงออกมาทางด้านสังคม
ต่อชนต่างศาสนิก หรือพี่น้องร่วมโลกดังต่อไปนี้
1.
แสดงความซื่อตรงโดยทำตัวเป็นกลางใจเป็นธรรม และแสดงออกซึ่งการมีคุณธรรมแก่พี่น้องร่วมชาติ
มาดแม้นพวกเขาไม่อยู่ในข่ายของกลุ่มชนที่ทำลายล้างโดยการสู้รบ
อัลลอฮ์ตรัสว่า
{لَا يَنْهَاكُمُ اللَّهُ عَنِ
الَّذِينَ لَمْ يُقَاتِلُوكُمْ فِي الدِّينِ وَلَمْ يُخْرِجُوكُم مِّن دِيَارِكُمْ
أَن تَبَرُّوهُمْ وَتُقْسِطُوا إِلَيْهِمْ إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُقْسِطِينَ} . الممتحنة
8
ความว่า อัลลอฮ์มิได้ทรงห้ามพวกเจ้าเกี่ยวกับบรรดาผู้ที่มิได้ต่อต้านพวกเจ้าในเรื่องศาสนา
และพวกเขามิได้ขับไล่พวกเจ้าออกจากบ้านเรือนของพวกเจ้า
ในการที่พวกเจ้าจะทำความดีแก่พวกเขา และให้ความยุติธรรมแก่พวกเขา
แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักผู้มีความยุติธรรม
2.
แสดงออกซึ่งความเมตตาโดยรวม เช่น เลี้ยงอาหารแก่ผู้หิวโหย
ให้น้ำดื่มแก่ผู้มีความกระหาย ทำการรักษาโรคแก่ผู้เจ็บไข้ได้ป่วย
ให้เขาหลุดพ้นจากความเสียหายทางร่างกาย หรือทรัพย์สิน
และต้องไม่สร้างความเดือดร้อนแก่เขา
โดยท่านนบี(ซ.ล.)اِرْحَمْ مَنْ فِي اْلأَرْضِ يَرْحَمْكَ مَنْ فِي السَّمَاءِ
] . رواه الطبراني
في المعجم الكبير [
ความว่า จงให้ความเมตตาต่อผู้มีชีวิตอยู่ในพื้นแผ่นดิน
และผู้อยู่ในชั้นฟ้าจะเมตตาท่าน
และท่านนบี (ซ.ล.) กล่าวอีกว่า
[فِيْ كُلِّ ذِيْ رَطْبَةٍ اَجْرٌ ] . رواه البخاري وابوداودوابن ماجه
ความว่า การทำความดีแก่ทุก ๆ เจ้าของ ตับชื้น (มีชีวิต) ได้รับผลบุญตอบแทน
3.
ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนแก่เขาในทรัพย์สิน เลือดเนื้อ
หรือเกียรติศยและศักดิ์ศรี ถ้าแม้นเขาไม่เป็นผู้ที่ต้องการสู้รบ
ดังท่านร่อซู้ล(ซ.ล.)
กล่าวว่า
[يَقُوْلُ اللهِ تَعَالَى يَاعِبَادِيْ
اِنِّيْ حَرَّمْتُ الظُّلْمَ عَلَى نَفْسِيْ وَجَعَلْتُهُ بَيْنَكُمْ مُحَرَّمًافَلاَتَظَالَمُوْا ] . رواه الترمذي
ความว่า อัลลอฮ์ผู้สูงส่งตรัสว่า โอ้บ่าวของข้า แท้จริงข้าได้ห้ามการอธรรมเหนือตัวข้า และข้าก็ให้การอธรรมเป็นของต้องห้ามในหมู่พวกเจ้า ดังนั้นเจ้าทั้งหลายอย่าอธรรมต่อกัน
และท่านนบี
(ซ.ล.) กล่าวว่า
[مَنْ آذَى ذِمِّيًّافَاَنَاْخَصْمُهُ
يَوْمَ اْلقِيَامَةِ ] . رواه في الأسرارالمرفوعة لعلي القاري
ความว่า ผู้ใดสร้างความเดือดร้อนแก่กาเฟรซิมมีย์
ข้าคือผู้ปรปักษ์เขาในวันกิยามะห์
4.
อนุญาตให้นำมาซึ่งความสุขในสังคม เช่นการให้ของขวัญ หรือของกำนันแก่เขา
และรับของขวัญหรือของกำนันจากเขา และบริโภคอาหาร จากอะห์ลุ้ลกิตาบ
ดังอัลลอฮ์ตรัสว่า
{وَطَعَامُ الَّذِيْنَ اُوْتُواالْكِتَابَ
حِلٌّ لَكُمْ وَطَعَامُكُمْ حِلٌّ لَهُمْ } .... الآية . المائدة
5
ความว่า และอาหารของบรรดาผู้ที่ได้รับคัมภีร์นั้น(พวกยิวและพวกคริสต์)
เป็นที่หะล้าลแก่พวกเจ้าและอาหารของพวกเจ้าก็เป็นอนุมัตแก่พวกเขา
และมีรายงานที่ถูกต้องจากท่านนบี(ซ.ล.)
ว่า แท้จริงท่านได้ถูกเชิญไปทานอาหารของยะฮูดีย์มะดีนะห์
ท่านได้ตอบรับและก็ได้ทานจากอาหารที่พวกเขานำมาเสนอให้ท่าน
สี่ประการ
เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้มาจากตัวบทอัลกุรอานและซุนนะห์ของท่านร่อซู้ล(ซ.ล.)
เพื่อขจัดความสงสัย หรือข้อข้องใจ ของพี่น้องมุสลิมกับการอยู่ร่วมกับพี่น้องร่วมชาติที่ต่างศาสนา
และเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน
ในการอยู่รวมแบบสังคมในยุคปัจจุบัน และข้อสำคัญดังกล่าวนั้นมากจากศาสดามูฮำหมัด(ซ.ล.)
อัลลอฮ์ตรัสว่า
{لَقَدْكَانَ لَكُمْ فِيْ رَسُوْلِ
اللهِ اُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِمَنْ كَانَ يَرْجُواالله َوَالْيَوْمَ اْلآخِرَ وَذَكَرَالله
َكَثِيْرًا } . الأحزاب 21
ความว่า อันแท้ที่จริงในศาสนทูตของอัลลอฮ์ คือแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว
สำหรับผู้ที่มุ่งหวัง(จะพบ)อัลลอฮ์ และวันอาคิเราะห์(วันปรโลก) และรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมากมาย
اَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَاَسْتَغْفِرُ اللهَ
الْعَظِيْمْ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِيْنَ وَالْمُؤْمِنَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ اِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ