เครื่องประดับและอาภรณ์ที่ต้องรับรู้
อ. อาลี กองเป็ง
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก
๑ : เครื่องประดับที่เป็นทองคำเช่นแหวนทองนั้นเป็นที่ต้องห้าม ( หะรอม ) แก่บรรดาเพศชาย แต่เป็นเครื่องประดับที่อนุมัติสำหรับเพศหญิง ท่านนบี (ซ ล ) ได้เห็นแหวนทองในนิ้วของชายผู้หนึ่งท่านจึงถอดออก แล้วท่ากล่าวว่า
يَعْمِدُ اَحَدُكُمْ اِلَى جُمْرَةٍ مِنْ نَارٍ فَيَطْرُحُهَا فِيْ يَدِهِ . رواه مسلم
"คนหนึ่งของพวกท่านจะมุ่งหมายยังถ่านหินที่มาจากไฟแล้วนำมันมาโยนใส่ในมือของเขากระนั้นหรือ"
๒ : การสวมแหวนที่นอกจากทองคำเป็นที่อณุยาติ ท่านนบี ( ซ ล ) สวมแหวนที่ทำมาจากเงินและสลักด้วยคำว่า ( محمد رسول الله ) บรรดาค่อลีฟะฮ์เช่นท่าน อะบูบักร ท่านอุมัร ท่านอุษมาน ร่อฎิยั้ลลอฮุอันฮุม (ขออัลลอฮ์โปรดพึงพอพระทัยต่อพวกเขาด้วย) ก็ทำการสวมแหวนหลังจากท่านนบี ( ซ ล ) จนกระทั้งในยุคท่านอุษมานแหวนนั้นได้ตกลงในบ่ออะรีส (بِئْرُأَرِيْس ) คือบ่อน้ำข้างมัสญิดกุบาอ ( قُبَاءْ ) ณ นครมะดีนะฮ์
๓ : อนุญาติใส่หรืออุดฟันและจมูกที่เป็นส่วนหนึ่งจากทองคำเมื่อเกิดความจำเป็น ซึ่งมีบันทึกของท่านติรมิซีย จากท่านอุรฟุญะฮ์บุตรท่านอัสอัส ( عُرْفُجَةُ بْنُ اَسْعَدْ ) กล่าวว่า จมูกของฉันถูกทำลายในวันกุลาบ ฉันจึงเสริมจมูกด้วยเงินแล้วมันเกิดกลิ่นเน่า ท่านนบี ( ซ ล )จึงใช้ไห้ฉันเสริมจมูกด้วยทอง
๔ : เครื่องประดับซึ่งมาจากอัญมณีต่างๆเช่นเพชรพลอยถึงแม้นจะมีราคาที่สูงก็ไม่เป็นที่ต้องห้ามทั้งนี้ต้องออกห่างไกลจากความอวดอ้าง
لأَ نَّ اْلأَصْلَ فِي اْلأَشْيَاءِ الْحِلُّ وَلَمْ يَرِدْ دَلِيْلٌ يَدُ لُّ عَلَى التَّحْرِيْمِ
"เพราะดั้งเดิมในสิ่งต่างๆเป็นที่หะล้าล และไม่มีหลักฐานที่ชี้ถึงการห้าม"
๕ : เสื้อผ้าอาภรที่สวมใส่ต้องไม่เป็นการเลียนแบบระหว่างเพศตรงข้าม กล่าวคือ เสื้อผ้าอาภรที่เป็นของเพศชายก็เฉพาะชาย ของเพศหญิงก็เฉพาะหญิง ทั้งนี้อิสลามปารถนาไห้แสดงออกถึงบุคลิกภาพของชายและหญิงอย่างชัดเจน โดยมิไห้ชายเลียนแบบหญิงและหญิงเลียนแบบชายไม่ว่าจะเป็นทางด้านคำพูดหรือกิริยาแม้นกระทั้งเสื้อผ้าอาภร
عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ رَضِيَ الله ُعَنْهُمَا قَالَ : لَعَنَ رَسُوْلُ اللهِ صلى الله عليه وسلم اَلْمُخَنِّثِيْنَ مِنَ الرِّجَالِ وَالْمُتَرَجِّلاَتِ مِنَ النِّسَاءِ . رواه البخاري
จากท่านอิบนิอับบาสกล่าวว่า "ท่านร่อซู้ล ( ซ ล )ได้ทราบแช่งผู้ชายที่แสดงตัวแบบผู้หญิง และผู้หญิงที่แสดงตัวแบบผู้ชาย"
عَنْ اَبِيْ هُرَيْرَةَ رَضيَ الله ُعَنْهُ قَالَ : لَعَنَ رَسُوْلُ اللهِ صلى الله عليه وسلم الرَّجُلَ يَلْبَسُ لُبْسَةَ الْمَرْأَةِ وَالْمَرْأَةَ تَلْبَسُ لُبْسَةَ الرَّجُلِ . رواه ابوداود والنسائي وابن ماجه وابن حبان والحاكم
จากท่านอะบูฮุรอยเราะฮ์กล่าวว่า "ท่านร่อซู้ล ( ซ ล )ได้สาปแช่งชายที่สวมใส่อาภรของเพศหญิง และหญิงที่สวมใส่อาภรของเพศชาย"
๖ : ลิบาซุชชุฮ์เราะฮ์ ( لِبَاسُ الشُّهْرَةِ ) คือเสื้อผ้าอาภรที่สวมใส่เพื่อแสดงออกถึงความโอ้อวด พร้อมด้วยเจตนาอวดอ้างมันคือของต้องห้ามเช่นกัน ท่านอับดุลเลาะฮ์บุตรท่านอุมัรได้นำเสนอว่า ท่านนบี ( ซ ล ) กล่าวว่า
مَنْ لَبِسَ ثَوْبَ شُهْرَةٍ فِي الدُّنْيَا اَلْبَسَهُ الله ُثَوْبَ مَذَ لَّةٍ يَوْمَ الْقِيَا مَةِ . أخرجه أبوداود واحمد والنسائي وابن ماجه
"ผู้ใดก็ตามที่สวมเสื้อผ้าอาภรที่โอ้อวดในโลกดุนยา อัลเลาะฮ์ ( ซ บ )จะทรงไห้เขาได้สวมใส่เสื้อผ้าอาภรอันต่ำต้อยในวันกิยามะฮ์"
๗ : ผ้าไหมก็คือสิ่งต้องห้ามแก่เพศชายและเป็นที่หะล้าลแก่เพศหญิงทั่วไปและเพศชายที่เกิดความจำเป็น
عَنْ عَلِيٍّ رضي الله عنه قَالَ : اُهْدِيَتْ لِلنَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم حُلَّةٌ سِيْرَاءُ فَبُعِثَ بِهَا اِلَىَّ فَلَبِسْتُهَا فَعَرَفْتُ الْغَضَبَ فِيْ وَجْهِهِ فَقَالَ : اِنِّيْ لَمْ اَبْعَثْ بِهَا اِلَيْكَ لِتَلْبِسَهَا اِنَّمَا بَعَثْتُ بِهَا اِلَيْكَ لِتَشُقَّهَا خُمُرًا بَيْنَ النِّسَاءِ . رواه اليخاري ومسلم
จากท่านอะลียกล่าวว่า "ได้มีเสื้อคลุมที่มีลายเส้นจากผ้าไหมถูกนำมาเป็นของกำนัลแด่ท่านร่อซู้ล ( ซ ล ) ท่านก็ได้มอบแก่ฉัน แล้วฉันก็ได้สวมมัน และฉันรู้สึกได้ถึงอาการโกรธจากใบหน้าของท่าน ท่านได้กล่าวว่า ฉันมิได้ไห้มันเพื่อท่านจะสวมใส่ แท้จริงฉันให้มันกับท่านเพื่อนำไปฉีกแบ่งเป็นตะลากง ( ผ้าคลุมร่างกาย ) แก่หญิงทั้งหลาย"
และในกรณีที่อนุญาติดังตัวอย่างต่อไปนี้
๑ : เพื่อรักษาโรค เช่นท่านนบี ( ซ ล )ได้ผ่อนผันแก่อับดุรเราะห์มานบุตรของเอาฟและอัซซุบัยร ในการสวมผ้าไหมเนื่องจากโรคคันที่ร่างกายของทั้งสอง บันทึกโดยบุคอรีย
๒ : เพื่อมิใช่การสวมใส่หรือนุงห่ม เช่นท่านอุมัรกล่าวว่าท่านนบี ( ซ ล ) ห้ามสวมผ้าไหมเว้นแต่ที่มีปริมาณไม่เกินสองหรือสามหรือสี่นิ้ว บันทึกโดยมุสลิมและอัซฮาบุสสุนัน
๓ : ผ้าไหมที่เจือปน ซึ่งมีทัศนะของชาฟิอียะฮ์ให้ทัศนะว่า ถ้าไหมมีปริมาณมากกว่าถือว่าหะรอม ( ต้องห้าม ) หากไหมมีปริมาณไม่เกินครึ่งหรือน้อยกว่าครึ่งก็ไม่ถือว่าหะรอม (ต้องห้าม ) ท่านอีหม่ามนะวาวียกล่าวว่า ผ้าไหมที่ผสมกับผ้าชนิดอื่นไม่เป็นของต้องห้ามยกเว้นไหมมีปริมาณที่มากกว่า
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก อัลเลาะฮ์ทรงสวยงามและพระองค์ก็ทรงรักความสวยงาม และพระองค์ไม่ทรงปารถนาความสวยงามที่เกิดจากสิ่งต้องห้าม ก่อนที่ท่านจะประดับร่างกายจงถามใจของท่านสักหน่อยได้ไหมว่า เจ้ามีเจตนาอย่างไร
اَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَاَسْتَغْفِرُاللهَ الْعَظِيْمَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ اِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ