วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

คุตบะห์วันอีด

خطبة عيد الفطر  2555

      
คุตบะห์ที่ 1      โดย   .อาลี  กองเป็ง
اللهُ أَكْبَر9   ครั้ง   

   اللهُ أَكْبَرُكَبِيْرًا . وَاْلحَمْدُللهِ كَثِيْرًا . وَسُبْحَانَ اللهِ بُكْرَةً وَأَصِيْلاً . سُبْحَانَ اللهِ وَاْلحَمْدُللهِ  وَلاَإِلهَ إلاَّ اللهُ . وَاللهُ أَكْبَر الله أكبرُ وَللهِ الْحَمْدُ  
  اَلْحَمْدُللهِ الْمُتَجَلِّيْ بِرَحْمَتِهِ عَلَى عِبَادِهْ ، اَلْقَرِيْبِ مِنْ أَهْلِ مَحَبتِهِ وَوِدَادِهِ
 اَلْقَامِعِ مَنْ هَامَ فِيْ مَيْدَانِ عُتُوِّهِ وَعِنَادِهْ ، اَلْمُعِيْدِ السُّرُوْرِ عَلَى أَهْلِ اْلاِيْمَانِ وَاْلاِسْلاَمِ  ، وَأَشْهَدُ أَنْ لاَإِلَهَ إِلاَّ اللهُ يَغْفِرُ الذُّنُوْبَ وَيُعْطَى كُلَّ سَائِلٍ مَاسَأَلْ ،  وَأَشْهَدُ أَنَّ سَيِّدَنَا مُحَمَّدًا رَسُوْلُ اللهِ رَغِبَ فِي الطَّاعَةِ وَحَذَّرَ مِنَ الْكَسَلْ .
اَللَّهُمَّ صَلِّ وَسَلِّمْ عَلىَ سَيِّدِنَا مُحَمَّدٍ طَيِّبِ الْقُلُوْبِ وَالْعِلَلْ  ، وَعَلىَ آلِهِ وَأَصْحَابِهِ الْمُخْلِصِيْنَ ِللهِ فِي الصِّيَامِ وَالْقِيَامِ  ،  أَمَّا بَعْدُ  :فَياَ عِبَادَاللهِ أُوْصِيْكُمْ وَنَفْسِيْ أَوَّلاً بِتَقْوَى اللهِ وَطَاعَتِهْ ،  وَقَدْ قَالَ اللهُ تَعَالىَ فِيْ كِتَابِهِ   {كُلُّ مَنْ عَلَيْهَا فَانٍ وَيَبْقَى وَجْهُ رَبِّكَ ذُوا الجَلاَلِ وَاْلاِكْرَامِ }
اللهُ أَكْبَرُ . اَلله ُأَكْبَرُ.  اَلله ُأَكْبَرُ . وَلله ِالْحَمْدُ
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก    อัลเลาะฮ์ (  ซ บ  )  ทรงประทานเนียะอมัตแก่ชาวมุสลิมไห้ได้มีโอกาสถือศีลอดในเดือนรอมฎอนตลอดทั้งเดือน   หลังจากนั้นมุสลิมทั้งหลายยังได้มีโอกาสเดินทางสู่ที่ทำการละหมาดไม่ว่าจะเป็นที่มัสญิดหรือมุซอลลา  โดยส่งเสียงก้องกังวานด้วยคำว่า  อั้ลลอฮุอักบัร  จากหัวใจที่เต็มเปลี่ยมไปด้วยความดีไจและภาคภูมใจ   ลี้นของพวกเขาชุ่มฉ่ำไปด้วยการซิกรุ้ลเลาะฮ์   และขอดุอาอไห้พระองค์ทรงตอบรับกับอะม้าลของพวกเขา   พร้อมด้วยการขออภัยโทษจากความผิดพลาดที่ผ่านมา    วันอีดคือวัน  และเวลาที่อัลเลาะฮ์ทรงประทานความดีที่มากมาย  พร้อมด้วยบะรอกัต  เราะฮ์มัต   และการตอบรับการขอดุอาอของมุสลีมีน  ซึ่งมีบันทึกของท่านฏอบรอนีย์   จากท่นอินุอับบาสซึ่งเป็นหะดีษมัรฟัวะอระบุว่า        



إِذَاكَانَ يَوْمُ عِيْدِ الْفِطْرِ                                                   
                                      เมื่อวันอีดิ้ลฟิฏรได้ปรากฏขึ้น

هَبِطَتِ الْمَلاَئِكَةُ عَلَى أَفْوَاهِ السِّكَكِ                                        
      เหล่ามะลาอิกะฮ์ได้ลงมาอยู่ตามช่องทางเดินต่างๆ

وَاْلاِنْسَ يُنَادُوْنَ بِصَوْتٍ تَسْمَعُهُ الْخَلاَئِقُ إِلاَّ الْجِنَّ
  เขาทั้งหลายจะส่งเสียงร้องเรียก  ซึ่งสิ่งถูกสร้างทั้งหมดจะได้ยินเสียงนั้น  ยกเว้นบรรดาญินและมนุษย์

يَا أُمَّةَ مُحَمَّدٍ أُخْرُجُوْا اِلَى رَبٍّ كَرِيْمٍ يُعْطِي الْجَزِيْلَ
โอ้ประชาชาติของมุฮำหมัด   ท่านทั้งหลายจงออกมาสู่พระเจ้าผู้ทรงใจบุญ  พระองค์จะทรงมอบไห้อย่างมหาศาล 

                                                                                                    فَإِذَا بَرَزُوْا إِلَى مُصَلاَّهُمْ 
                     ดังนั้นเมื่อมุสลิมทั้งหลายปรากฏตัวยังที่ทำการละหมาดของพวกเขา  
     
                      قَالَ الله ُتَعَالَى :  يَامَلاَئِكَتِيْ مَاجَزَاءُ اْلأَجِيْرِ إِذَاعَمِلَ عَمَلَهُ                                    อัลเลาะฮ์ได้ทรงกล่าวว่า โ อ้เหล่ามะลาอิกะฮ์  อะไรคือค่าตอบแทนของลูกจ้างเมื่อเขาทำภาระกิจเสร็จแล้ว

قَالُوْا  : إِلَهَنَاوَسَيِّدَنَاأَنْ تُوَفِّيَهُ أَجْرَهُ                               
    เหล่ามะลาอิกะอ์ทูลตอบว่า   โอ้พระเจ้าและนายแห่งพวกเรา  โปรดให้ค่าจ้างแก่เขาอย่างสมบูรณ์ด้วยเถิด  
  
قَالَ  : فَإِنِّيْ جَعَلْتُ ثَوَابَهُمْ مِنْ صِيَامِهِمْ وَقِيَامِهِمْ مَغْفِرَتِيْ وَرِضْوَانِيْ
อัลเลาะฮ์ทรงกล่าวว่า   แท้จริงเราได้มอบดลบันดาลผลบุญของพวกเขาจากการถือศีลอดและการละหมาดของพวกเขา  เป็นการอภัยโทษจากเรา และเป็นความพึงพอใจของเรา

     وَعِزَّتِيْ لاَيَسْأَلُوْنِيْ فِيْ جَمْعِهِمْ هَذَا لِلآخِرَةِ شَيْئًا إِلاَّ أَعْطَيْتُهُمْ                          และด้วยเกียรติแห่งเรา   ไม่ว่าพวกเขาทั้งหลายจะขอต่อเราในสิ่งหนึ่งสิ่งใด    การรวมตัวของพวกเขานี้เพื่ออาคิเราะฮ์  เว้นเสียแต่เราจะได้ไห้ตามที่พวกเขาขอ 
                      وَلاَلِدُنْيَاهُمْ إِلاَّ نَظَرْتُ لَهُمْ  
   และไม่ว่าเขาทั้งหลายจะขอเพื่อดุนยาของพวกเขาเว้นแต่เราได้มอง ( มอบให้ตามคำขอ )แก่พวกเขาแล้ว           
                                                                                                         اِنْصَرِفُوْا مَغْفُوْرًالَكُمْ                        ท่านทั้งหลายจงแยกย้ายกลับในสภาพเป็นผู้ได้รับการอภัยโทษแก่พวกท่านเถิด

قَالَ مُوَرِّقُ اْلعَجَلِيْ  :  فَيَرْجِعُ قَوْمٌ مِنَ الْمُصَلَّى كَمَاوَلَدَتْكُمْ أُمَّهَاتُكُمْ         
       ท่านมุวัรริกอั้ลอะญะลีย์กล่าวว่า   ดังนั้นพวกเขาก็จะกลับจากที่ทำการละหมาดในสภาพที่สอาดบริสุทธิจากบาปเปรียบเสมือนบุตรที่คลอดจากครรญของมารดา  

فَهُوَ يَوْمُ الْجَائِزَةِ                           
               มันคือวันแห่งการตอบแทนด้วยรางวัล 

وُيسَمَّى ذَلِكَ الْيَوْمُ فِي السَّمَاءِ يَوْمَ الْجَائِزَةِ 
    และถูกขนานนามวันดังกล่าวนี้ในท้องฟ้าว่า  เยามุ้ลญาอิซะฮ์  ( วันแห่งการตอบแทนรางวัล )

اَلله ُأَكْبَرُ. اَلله ُأَكْبَرُ. اَلله ُأَكْبَرُ. وَللهِ الْحَمْدُ
     
ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก   ขณะที่มีคนใดคนหนึ่งทำไม่ดีต่อท่าน   ท่านจงรำลึกอยู่เสมอว่าท่านมีอัลเลาะฮ์ทรงเป็นผู้อำนาจสูงสุดในการคุ้มครองท่าน   หากแม้นท่านอดทนและไห้อภัย   พระองค์จะทรงเปลี่ยนไห้แก่ท่านเป็นความดีอันมากมายซึ่งความดีเหล่านั้นมันจะเพิ่มน้ำหนักของตาชั่งในวันกิยามะฮ์    ดังนั้นท่านจงนึกอยู่เสมอว่า  ฉันจะไม่ทำลายความดีของฉันด้วยการมีหัวใจที่อคติและอาฆาตแค้นอีกต่อไปเพื่อความสุขของฉันทั้งดุนยาและอาคิเราะฮ์                                                           ท่านชัยค์อัสซะอดียالسَّعْدِيْ – رَحِمَهُ الله ُ        ได้ไห้น่าซีหะฮ์เตือนใจว่า    เป็นส่วนหนึ่งจากภารกิจที่ทรงคุณค่า    คือไห้ท่านเข้าใจว่ามนุษย์คนใดที่เขาสร้างความเดือดร้อนและอันตรายแกท่านโดยเฉพาะเรื่องของวาจาและคำพูดที่ไห้ร้ายมันจะไม่เกิดอันตรายแก่ท่านแต่มันคืออันตรายแก่ตัวของเขาเอง  เว้นเสียแต่ท่านไห้ความสำคัญกับมันจนกระทั้งความรู้สึกในทางลบติดในจิตรใจและในสมองของท่าน  นั้นแหละคืออันตรายที่ประสพแก่ท่านเฉกเช่นอันตรายที่เกิดแก่เขา   ถ้าแม้นท่านไม่ใส่ใจก็จะไม่เกิดอันตรายแก่ท่าน     จงดำเนินชีวิตของท่านด้วยหัวใจที่สะอาดและบริสุทธิที่จะนำท่านเข้าสวนสวรรค์เช่นซ่อฮาบะฮ์ท่านหนึ่งซึ่งท่านผู้นี้มิได้มากมายนักในภาคปฏิบัติ  (  عَمَلْ  )                                          โดยท่านนบีกล่าวรับรองว่า  
يَطْلُعُ عَلَيْكُمُ اْلآنَ رَجُلٌ مِنْ اَهْلِ الْجَنَّةِ  .  رواه أحمد
วามว่า”จะมีชายผู้หนึ่งจากชาวสวรรค์จะมาพบพวกท่านในขณะนี้   หลายคนจากซ่อฮาบะฮ์ได้ถามชายคนนั้นถึงสาเหตุของการเป็นชาวสวรรค์ของเขาทั้งๆที่เขามิได้มากมายเลยในภาคปฏิบัติ   เขาจึงตอบว่า   ฉันไม่เคยมีความคิดและหัวใจที่ที่จะทุจริตและอธรรมต่อมุสลิมคนใดเลย    และในหัวใจของฉันไม่คิดที่จะอิจฉาใครเช่นเดียวกัน   ท่านอับดุลเลาะฮ์กล่าวว่า   เหตุนี้เองที่นำท่านไปสู่สวรรค์   ซึ่งพวกเราไม่มีความสามารถ

الله ُأَكْبَرُ.  الله ُأَكْبَرُ.  الله ُأَكْبَرُ.  وَللهِ الْحَمْدُ

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก
ท่านนบีมุฮำหมัด ( ซ ล ) กล่าวว่า
أَلاَ وَإِنَّ فِي الْجَسَدِ مُضْغَةٌ إِذَاصَلُحَتْ صَلُحَ الْجَسَدُ كُلُّهُ وَإِذَافَسَدَتْ فَسَدَ الْجَسَدُ كُلُّهُ أَلاَ وَهِيَ الْقَلْبُ  .  رواه البخاري عن أبي عبد الله النعمان بن بشير
ความว่า   “โปรดได้ทราบเถิดว่า  แท้ที่จริงในเรือนร่างนั้นมีเลือดอยู่กอ้นหนึ่ง  หากแม้นเลือดก้อนนี้สะอาดบริสุทธิ  ทั้งหมดเรือนร่างก็ย่อมบริสุทธิ์ไปด้วย   และหากแม้นมันเสีย   ทั้งหมดเรือนร่างก็ย่อมเสียหายไปด้วย   โปรดเข้าใจเถิดว่าเลือดก้อนนั้นคือหัวใจ”

มุสลิมที่สะอาดคือผู้ที่สะอาดมาจากภายใน   เขาต้องดูแลและรักษาใจของเขาไห้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ  หากมีโรคทางใจเขาต้องรักษาและขจัดไห้มันออกไป  ก่อนที่โรคนั้นจะบั่นทอนและลบล้างความดี  เช่นโรคที่มีชื่อว่าโรคชิรก  โรคหะซัด ( อิจฉาริษยา ) โรคฮิกดะฮ์ ( อาฆาตแค้น )  และอีกหลายโรคที่ก่อเกิดในหัวใจและแสดงออกมาทางอวัยวะต่างของร่างกายเช่นทางวาจา  มือ  เท้าเป็นต้นจนกระทั้งทำลายพี่น้องมุสลิมด้วยกันตลอดจนถึงทำลายสังคมเลยทีเดียว  ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่า  สังคมดีไม่มีขายถ้าอยากได้ก็ช่วยกันทำ  ยิ่งกว่านั้นเขากับกลายสภาพเป็นคนที่ล้มละลายในวันกิยามะฮ์  อะม้าลที่สะสมมาต้องมลายสี้น
ท่านนบี ( ซ ล ) ได้เตือนถึงอันตรายดังก่ลาวว่า
إِنَّ الْمُفْلِسَ مِنْ أُمَّتِيْ مَنْ يَأْتِيْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ بِصَلاَةٍ وَصِيَامٍ وَزَكَاةٍ وَيَأْتِيْ قَدْ شَتَمَ هَذَا وَقَذَفَ هَذَا وَأَكَلَ مَالَ هَذَا وَسَفَكَ دَمَ هَذَا وَضَرَبَ هَذَا  فَيُعْطَى هَذَامِنْ حَسَنَاتِهِ وَهَذَامِنْ حَسَنَاتِهِ حَتَّى اِنْ فُنِيَتْ حَسَنَاتُهُ قَبْلَ اَنْ يَقْضِيَ مَاعَلَيْهِ أُخِذَ مِنْ خَطَايَاهُمْ فَطُرِحَ عَلَيْهِ ثُمَّ طُرِحَ فِي النَّارِ  . رواه مسلم عن أبي هريرة         ความว่า  “ แท้จริงผู้ล้มละลายจากอุมมะฮ์ของฉันคือผู้ที่จะมาในวันกิยามะฮ์พร้อมด้วยละหมาด ถือศีลอดและซะกาตของเขาและจะมาในสภาพที่ความจริงเขาผู้นี้ได้ด่าคนนั้นได้ใส่ร้ายคนนี้กินทรัพย์คนนั้นหลั่งเลือดคนนี้และตีคนนั้น ดังนั้นจะถูกนำความดีของเขาที่ทำไว้ไปให้คนนั้นและไปให้คนนี้จนกระทั่งความดีที่ทำไว้ไม่หลงเหลืออยู่เลยก่อนที่เขาจะชดใช้กับสิ่งที่เขากระทำไว้เขาจึงต้องรับความผิดของผู้ที่เขาได้ละเมิดไว้มาโยนใส่ตัวเขาเองแล้วต่อมาเขาต้องถูกโยนลงนรก"

اَلله ُأَكْبَرُ.  الله ُأَكْبَرُ.  الله ُأَكْبَرُ.  وَللهِ الْحَمْدُ

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก อัลลอฮ์(ซบ)ทรงกล่าวว่า   


إِنَّمَا الْمُؤْمِنُوْنَ إِخْوَةٌ                               
                                                                    ความว่า “แท้จริงบรรดามุฮ์มินเป็นพี่น้องกัน”

 ความรักที่มีให้กันความอดทนซึ่งกันและกันและการอภัยต่อกันเป็นลักษณะของบรรดาผู้ที่มีอีหม่าน
มีพี่น้องผู้ชายสองคนที่ร่วมสายโลหิตเดียวกัน   ทั้งสองจะหยอกล้อและละเล่นกันเป็นประจำ  อยู่ต่อมาวันหนึ่งผู้เป็นพี่ชายได้ตบตีน้องชาย    น้องชายเสียใจและร้องไห้  ด้วยความเสียใจเขาจึงได้เขียนบนพื้นทรายว่า    พี่ได้ตบตีฉัน    เวลาได้ผ่านไปหลายวันทั้งสองชวนกันไปว้ายน้ำที่สระน้ำข้างบ้าน   ผู้เป็นน้องชายเกิดเป็นตะคิวเกือบจะจมน้ำ   ผู้เป็นพี่ชายได้ช่วยเหลือน้องชายจากการจมน้ำ    ผู้เป็นน้องชายจึงเขียนบนโขดหินว่า   พี่ชายได้ช่วยฉันไห้รอดพ้นจากความตาย    อยู่ต่อมาวันหนึ่งพี่ชายถามน้องชายว่า    วันที่พี่ตบตีเจ้า   เจ้าเขียนมันไว้บนทราย  และวันที่พี่ช่วยเจ้าจากการจมน้ำเจ้าแกะสะลักไว้บนโขดหิน   น้องชายกล่าวตอบพี่ชายว่า    ขณะพี่ตีฉันเพื่อเป็นการลงโทษ  ฉันจะเขียนมันไว้บนทราย   เมื่อลมพัดมาก็จะลบรอยที่เขียนไว้    ฉันก็จะลืมมันไป   แต่ขณะที่พี่ช่วยชีวิตฉัน   ฉันจะเขียนมันไว้บนโขดหิน   เพื่อมันจะเป็นความจดจำที่ดีกับฉันจนตลอดชีวิตและลบความอาฆาตแค้นจากจิตรใจฉัน
ท่านนบี ( ) เป็นตัวอย่างในลักษณะของความกรุณาและไห้อภัย   ซึ่งท่านเข้าพบชนเผ่าต่างๆ โดยการเชิญชวนและเรียกร้องคนเหล่านั้นเข้าสู่หนทางที่นำพาซึ่งความเมตตาของอัลเลาะฮ์    บางส่วนจากคนเหล่านั้นแสดงความจาบจ้วงและก้าวร้าวแก่ท่าน   ขณะนั้นบรรดามะลาอิกะฮ์แห่งภูผาได้กล่าวสล่ามแก่ท่าน พร้อมกล่าวว่า    หากท่านปารถนาเราจะไห้ภูเขาสองลูกที่รายล้อมมหานครมักกะฮ์ทลายพวกเขา    แต่ท่านนบี ( ) กล่าวตอบแก่มะลาอิกะฮ์ด้วยวาจาแห่งการเป็นศาสดาที่เปลี่ยมล้นไปด้วยความเมตาและไห้อภัย ว่า
بَلْ اَرْجُوْا اَنْ يُخْرِجَ الله ُمِنْ اَصْلاَ بِهِمْ مَنْ يَعْبُدُ الله َوَحْدَهُ لاَيُشْرِكُ بِهِ شَيْئًا  .   رواه البخاري ومسلم
อย่ากระนั้นเลย    เพียงแต่ฉันหวังจากอัลเลาะฮ์ทรงให้ผู้ที่กราบไหว้อัลเลาะฮ์องค์เดียวและไม่สร้างภาคีต่อพระองค์ออกจากกระดูกสันหลังของพวกเขา (ลูกหลานที่ศรัทธา)
ท่านพี่น้องที่รัก  ปัจจัยที่นำพาท่านสู่การไม่ถือสาและการไห้อภัย  คือความเข้าใจที่แท้จริงว่าสิทธิของท่านถูกเก็บรักษาไว้  ที่พระองค์อัลเลาะฮ์แต่ละคนจะได้รับความดีของเขาในวันกิยามะฮ์โดยไม่ต้องลำบากและเหน็ดเหนื่อย                      
                      ดั่งชาวสลับ (  السَّلَفْ ) ที่ได้ปฏิบัติขณะที่ทราบข่าวว่ามีชายผู้หนึ่งได้นินทาและไห้ร้ายเขา    โดยเขาได้นำของขวัญ ( هَدِيَّةْ ) ที่สวยงามและเหมาะสมและเดินทางไปเพื่อมอบของขวัญชี้นนั้นด้วยตัวเอง   ชายที่นินทาไห้ร้ายจึงกล่าวถามว่า  เนื่องในโอกาสอันใดท่านจึงได้นำของชิ้นนี้มามอบไห้แก่ข้า  ชายผู้มอบของขวัญจึงกล่าวว่า   แท้จริงท่านร่อซู้ลกล่าวว่า 

مَنْ صَنَعَ لَكُمْ مَعْرُوْفًا فَكَافِئُوْهُ  .  رواه ابوداود                         
                                   ความว่า  ใครก็ตามที่สร้างความดีไห้แก่พวกท่าน  พวกท่านจงตอบแทนรางวัลแก่เขา
และแท้จริงท่านคือผู้มอบความดีของท่านไห้แก่ข้า  ข้าไม่มีสิ่งไดตอบแทนท่านนอกจากของขวัญในโลกดุนยาเท่านั้น

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก  ขณะที่มีคนใดคนหนึ่งทำไม่ดีต่อท่าน   ท่านจงรำลึกอยู่เสมอว่าท่านมีอัลเลาะฮ์ทรงเป็นผู้อำนาจสูงสุดในการคุ้มครองท่าน   หากแม้นท่านอดทนและไห้อภัย   พระองค์จะทรงเปลี่ยนไห้แก่ท่านเป็นความดีอันมากมายซึ่งความดีเหล่านั้นมันจะเพิ่มน้ำหนักของตาชั่งในวันกิยามะฮ์    ดังนั้นท่านจงนึกอยู่เสมอว่า  ฉันจะไม่ทำลายความดีของฉันด้วยการมีหัวใจที่อคติและอาฆาตแค้นอีกต่อไปเพื่อความสุขของฉันทั้งดุนยาและอาคิเราะฮ์

اَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَاَسْتَغْفِرُاللهَ الْعَظِيْمَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ اِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ



الخطبة الثانية                                                                                             الله ُأَكْبَرُ   7                                                                 
اللهُ أَكْبَرُ . الله ُأَكْبَرُ . لاَاِلَهَ إِلاَّالله ُ. الله ُأَكْبَرُ . الله ُأَكْبَرُ . وَللهِ الْحَمْدُ        اَلْحَمْدُللهِ مُعِيْدِ الْجَمْعِ وَاْلأَعْيَادْ . وَمُبِيْدِ اْلأُمَمِ وَاْلأَجْنَادْ . وَجَامِعِ النَّاسِ لِيَوْمٍ لاَرَيْبَ فِيْهِ إِنَّ الله َلاَيُخْلِفُ الْمِيْعَادْ . وَأَشْهَدُ أَنْ لاَإِلَهَ إِلاَّ الله ُوَحْدَهُ لاَشَرِيْكَ لَهْ وَلاَنِدَّ وَلاَمُضَادْ . وَأَشْهَدُ أَنَّ مُحَمَّدًاعَبْدُهُ وَرَسُوْلُهُ الْمُفَضَّلُ عَلَى جَمِيْعِ الْعِبَادْ . صَلَّى الله ُعَلَيْهِ وَعَلَى آلِهِ وَأَصْحَابِهِ وَمَنْ تَبِعَهُمْ بِإِحْسَانٍ إِلَى يَوْمِ التَّنَادْ . وَسَلَّمَ تَسْلِيْمًا
اَمَّابَعْدُ : فَيَااَيُّهَاالنَّاسُ  .اِتَّقُوااللهَ حَقَّ تُقَاتِهِ وَلاَ تَمُوْتُنَّ إِلاَّ وَأَنْتُمْ مُسْلِمُوْنَ .  أَلاَ وَصَلُّوْا عَلَى خَيْرِ الْبَرِيَّةِ أَجْمَعِيْنَ . وَرَسُوْلِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ . نَبِيِّ الْهُدَى وَالرَّسُوْلِ الْمُجْتَبَى . فَقَدْ أَمَرَكُمْ مَوْلاَكُمْ بِذَلِكَ فِيْ مُحْكَمِ كِتَابِهِ . إِنَّ اللهَ وَمَلاَئِكَتَهُ يُصَلُّوْنَ عَلَى النَّبِىِّ يَا اَيُّهَا الَّذِيْنَ آمَنُوْا صَلُّوْا عَلَيْهِ وَسَلِّمُوْا تَسْلِيْمًا .   اَللَّهُمَّ اغْفِرْ لِلْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ وَالْمُؤْمِنِيْنَ وَالْمُؤْمِنَاتِ اْلأَحْياَءِ مِنْهُمْ وَاْلأَمْوَاتِ بِرَحْمَتِكَ يَاأَرْحَمَ الرَّاحِمِيْنَ . أَعَادَ الله ُعَلَيْنَا مِنْ بَرَكَاتِ هَذَاالْعِيْدِ . وَجَعَلَنَا فِي الْقِيَامَةِ مِنَ اْلآمِنِيْنَ . وَحَشَرَنَاتَحْتَ لِوَاءِ سَيِّدِ الْمُرْسَلِيْنَ . عَلَيْهِ الصَّلاَةُ مِنْ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ . اَللَّهُمَّ اجْعَلْ عِيْدَنَا فَوْزًابِرِضَاكَ ياَأَرْحَمَ الرَّاحِمِيْنَ . اَللَّهُمَّ اجْعَلْ رَمَضَانَ رَاحِلاًبِذُنُوْبِنَا  قَدْ غَفَرْتَ فِيْهِ سَيِّئَاتِنَا . وَرَفَعْتَ فِيْهِ دَرَجَاتِنَا . رَبَّنَاتَقَبَّلْ مِنَّاإِنَّكَ أَنْتَ السَّمِيْعُ الْعَلِيْمُ.
 وَتُبْ عَلَيْنَا إِنَّكَ أَنْتَ التَّوَّابُ الرَّحِيْمُ . وَاجْعَلْنَا مِنَ الَّذِيْنَ تَجْرِيْ مِنْ تَحْتِهِمُ اْلأَنْهَارُ فِيْ جَنَّاتِ النَّعِيْمِ .
دَعْوَاهُمْ فِيْهَا سُبْحَانَكَ اللَّهُمَّ وَتَحِيَّتُهُمْ فِيْهَا سَلاَمْ  . وَآخِرُدَعْوَاهُمْ أَنِ اْلحَمْدُ ِلله ِرَبِّ اْلعَالَمِيْنَ .