วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

บทความศาสนา

จงแสวงหาความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์
โดย อ. อาลี กองเป็ง

ท่านพี่น้องร่วมศรัทธาที่รัก
อัลเลาะฮ์ ( ซ บ ) ตรัสในซูเราะห์ อันนะบะ โองการที่ 11 ว่า





ความว่า  และเราได้ทำไห้กลางวันนั้นเป็นที่แสวงหาซึ่งเครื่องยังชีพ”

และผืนแผ่นดินก็เป็นความโปรดปรานของพระองค์ที่ทรงมอบแก่มนุษยชาติ    พระองค์ทรงกล่าวในซูเราะห์ อัล อะร๊อฟ โองการที่ 10  ว่า

ความว่า   และแท้จริง  เราได้ให้เจ้าทั้งหลายมีที่พำนักอยู่ในผืนแผ่นดิน   และเราได้ให้มีขึ้นแก่เจ้าทั้งหลายซึ่งเครื่องยังชีพในผืนแผ่นดินนั้น  ส่วนน้อยนักที่เจ้าทั้งหลายจะขอบคุณ”

และอัลเลาะฮ์ ( ซ บ ) ทรงไห้ผืนแผ่นดินเป็นที่แสวงหาปัจจัยยังชีพด้วยความโปรดปรานของพระองค์
อัลเลาะฮ์ทรงตรัสในซูเราะห์ อัล ญุมอะห์ โองการที่ 10  ว่า

ดังนั้นเมื่อการละหมาดได้สิ้นสุดลงแล้ว   เจ้าทั้งหลายก็จงแยกย้ายกันไปตามแผ่นดิน   และเจ้าทั้งหลายจงแสวงหาความโปรดปรานของอัลเลาะฮ์    และจงรำลึกถึงอัลเลาะฮ์ไห้มากๆ   เพื่อว่าพวกเจ้าได้รับซึ่งชัยชนะ

ท่านนบี ( ซ ล )   กล่าวว่า
لأَ نْ يَأْ خُذَ أَحَدُكُمْ حَبْلَهُ فَيَحْتَطِبُ عَلَى ظَهْرِهِ خَيْرٌمِنْ اَنْ يَأْتِيَ رَجُلاً أَعْطَاهُ الله َمِنْ فَضْلِهِ فَيَسْأَلَهُ أَعْطَاهُ أَوْمَنَعَهُ   .   رواه البخاري ومسلم
ความว่า  ในการที่คนหนึ่งของพวกท่านเอาเชือกของเขา    แล้วเขาออกไปรวบรวมไม้ฟืนแบกบนหลังของเขา   มันดีกว่าที่เขาจะไปขอผู้หนึ่งที่อัลเลาะฮ์ได้ให้เขาจากความโปรดปรานของพระองค์   บางทีเขาก็ไห้บางทีเขาก็ไม่ให้
ครั้งหนึ่งท่านนบีมุฮำหมัด ( ซ ล )นั่งสนทนากับเหล่าซ่อฮาบะฮ์ในวันหนึ่ง    เขาทั้งหลายแลเห็นชายผู้หนึ่งร่างกายกำยำแข็งแรง    ออกทำงานแต่เช้าตรู่   บรรดาซ่อฮาบะฮ์จึงกล่าวว่า  โอ้อนิจจาเอ๋ยมันชั่งน่าเสียใจแก่ชายผู้นี้เหลือเกิน      ทำไมเขาจึงไม่ใช้ความหนุ่มและความแข็งแรงกำยำของเขาเพื่อหนทางของอัลเลาะฮ์ ?   ท่านนบี ( ซ ล ) กล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า
لاَ تَقُوْلُوْاهَذَا !  فَاِ نَّهُ اِنْ كَانَ خَرَجَ يَسْعَى عَلَى وَلَدِهِ صِغَارًا فَهُوَفِيْ سَبِيْلِ اللهِ  وَاِنْ كَانَ خَرَجَ يَسْعَى عَلَى نَفْسِهِ يَعِفُّهَا فَهُوَفِيْ سَبِيْلِ اللهِ  وَاِنْ كَانَ خَرَجَ يَسْعَى رِيَاءً وَمُفَاخَرَةً فَهُوَفِيْ سَبِيْلِ الشَّيْطَانِ   .   رواه الطبراني
ท่านทั้งหลายอย่ากล่าวเช่นนี้เลย   หากแม้นว่าเขาออกทำมาหากินเพื่อเลี้ยงลูกที่ยังเล็กของเขา  เขาก็ยังอยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์   และหากแม้นว่าเขาออกทำมาหากินเพื่อรักษาตัวเอง ( เลี้ยงดูตัวเอง )   เขาก็ยังอยู่ในหนทางของอัลเลาะฮ์   ถ้าแม้นเขาออกแสวงหาเพื่อความโอ้อวดและเพื่อความโอ่อ่า   เขาก็อยู่ในหนทางของชัยฏอน
ท่านค่อลีฟะฮ์อุมัรบินค๊อฏฏ๊อบกล่าวว่า    คนหนึ่งคนใดของพวกท่านอย่าละเลยในการแสวงหาริสกี ( ปัจจัยยังชีพ )  และกล่าวว่า  โอ้อัลเลาะฮ์โปรดประทานริสกีแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด    ทั้งๆที่พวกท่านทราบดีว่า   ฝนนั้นจะไม่ตกลงมาเป็นทองคำและเป็นเงิน
ท่านอิบนิมัสอูดกล่าวว่า  ฉันรังเกลียดที่จะเห็นคนคนหนึ่งปล่อยเวลาของเขาว่างไป   โดยไม่อุตสาหะในงานของโลกดุนยา   และไม่อุสสาหะเพื่อโลกอาคิเราะฮ์
มีชายผู้หนึ่งกล่าวถามท่านอิหม่ามอะห์หมัดอิบนุฮัมบัลว่า   ท่านจะว่าอย่างใรกับชายคนหนึ่งนั่งอยู่กับบ้านหรือในมัสญิดของเขา   และเขาก็กล่าวว่า  ฉันจะไม่ทำงานใดริสกีก็จะมาหาฉันเอง    ท่านอิบนุฮัมบัลกล่าวตอบว่า    ชายคนนี้เป็นคนโง่เขลา    เขาไม่ใด้ยินคำพูดของท่านร่อซู้ล ( ซ ล ) ที่กล่าวหรอกหรือว่า
اِنَّ الله َجَعَلَ رِزْقِيْ تَحْتَ ظِلِّ رُمْحِيْ  .
แท้จริงอัลเลาะฮ์ทรงดลบันนดาลริสกีของฉันใต้ร่มเงาของด้ามหอกฉัน    และเขาก็ไม่ใด้ยินท่านร่อซู้ล ( ซ ล )  กล่าวถึงการแสวงหาริสกีของนกหรอกหรือว่า  
                                                                    تَغْدُوْا خِمَاصًا وَتَرُوْحُ بِطَانًا
                                                                
    มันโผบินหาริสกียามเช้าตรู่สภาพที่ท้องมันว่างและโผบินกลับในสภาพที่อิ่มท้อง
และบรรดาซ่อฮาบะฮ์ของท่านร่อซู้ล ( ซ ล ) ได้ทำการแยกย้ายทำมาหากินทั้งทางบกและทางทะเล   และบางท่านมีอาชีพทางการเกษตร   บางท่านค้าขาย   บางท่านทำปศุสัตว์   โดยการตระหนักของพวกเขาจากคำตอบของท่านนบี ( ซ ล ) แก่ซ่อฮาบะฮ์ที่ถามว่า    โอ้ท่านร่อซู้ล  อาชีพใดที่ถือว่าดี  ท่านตอบว่า
عَمَلُ الرَّجُلِ بِيَدِهِ وَكُلُّ بَيْعٍ مَبْرُوْرٍ  .  رواه الطبراني
คืองานที่เกิดด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขา   และทุกการค้าขายที่ดี

ท่านลุกมานุ้ลหะกีมใด้กล่าวสอนลูกว่า   โอ้ลูกรักเจ้าจงยึดอาชีพที่หะล้าลเหนือความยากจน   แท้จริงไม่มีใครที่ยากจนเว้นเสียแต่จะประสพแก่เขากับสามประการ ๑  บอบบางในศาสนาของเขา        ใหวพริบของเขาอ่อนลง       ขาดไปซึ่งบุคลิกที่กล้าหาญของเขา    และหนักกว่านั้นคือขาดความมีศักดิ์ศรีและรับการดูถูกจากคนทั่วไป                                                                              ท่านอะบูสุลัยมานอัดดารอนีย์กล่าวว่า      ไม่นับว่าเป็นอิบาดะฮ์    พวกเราในการที่ท่านวางสองเท้าของท่านทั้งสองในละหมาด   และคนอื่นจากท่านเหน็ดเหนื่อยเพื่อท่าน   แต่ทว่าท่านจงเริ่มด้วยขนมปังของท่านต่อมาท่านจงทำให้แข็งแรงกับสองเท้าของท่านแล้วทำการอิบาดะฮ์                    จริงอยู่  การประกอบอาชีพหรือการค้าขายคือ การแสดงออกถึงความมีศักดิ์ศรี    แต่การละมันไว้เพื่อการทำคุณประโยชน์แก่ผู้คนทั่วไปนั้นคือความประเสริฐที่มากกว่า   เช่นผู้รู้ ( اَلْعَالِمْ )   ซึ่งเขาให้ประโยชน์ทางด้านศาสนา    หรือผู้มีหน้าที่คอยดูแลประโยชน์สุขของมุสลิมโดยรวม     เช่นท่านค่อลีฟะฮ์อะบูบักร     ท่านละที้งอาชีพค้าขายเมื่อท่านขึ้นดำรงตำแหน่งค่อลีฟะฮ์   หากมิฉะนั้นแล้วอาจทำให้เกิดความบกพร่องหรือเสียหายจากอะมานะฮ์ที่ท่านรับแบกเอาไว้  ท่านดำรงชีวิตของท่านด้วยทรัพย์ส่วนที่พอเพียงจากกองคลังของมุสลิม ( بَيْتُ الْمَالِ  )      และท่านใด้ทำการสั่งเสีย  (  وَصِيَّةْ ) ไห้ส่งคืนสู่บัยตุ้ลมาล  หลังที่ท่านจากโลกดุนยาไปแล้ว     

اَقُوْلُ قَوْلِيْ هَذَا وَاَسْتَغْفِرُاللهَ الْعَظِيْمَ لِيْ وَلَكُمْ وَلِسَائِرِ الْمُسْلِمِيْنَ وَالْمُسْلِمَاتِ فَاسْتَغْفِرُوْهُ اِنَّهُ هُوَ الْغَفُوْرُ الرَّحِيْمُ